เชลซี,เลสเตอร์ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก

เชลซี,เลสเตอร์ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก

blog

"เชลซี"เจ๊าเลสเตอร์1-1เพียงพอเข้าป้าที่3

1 ปีที่แล้ว  909


"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ได้การันตีอันดับ 3 ในศึกพรีเมียร์ลีกเรียบร้อยแล้ว แม้จะทำได้เพียงเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ตีเสมอ "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1


เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี มีการปรับทัพบางตำแหน่ง โดยแนวรุกให้ โรเมลู ลูกากู ลงไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเพื่อประสานงานกับ คริสเตียน พูลิซิช และ ฮาคิม ซีเย็ค

  

ด้านทีมเยือนของกุนซือ เบรนแดน รอดเจอร์ส มีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ยังใช้งานพวกตัวหลักได้อีกหลายราย นำทัพโดย เจมส์ แมดดิสัน, เจมี่ วาร์ดี้ และ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่


เริ่มเกมไปเพียงแค่ 6 นาที เลสเตอร์ ออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือนเปิดบอลยาวไปทางฝั่งขวาตรงพื้นที่ว่างให้ ติโมธี คาสตานเญ่ วิ่งสปีดหนี มาร์กอส อลอนโซ่ แบ็กซ้ายเจ้าบ้านไปรับลูกบอล และตบเข้ากลางให้ เจมส์ แมดดิสัน ปั่นบอลจากหน้ากรอบเขตโทษหนีมือของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตู เชลซี เข้าไปแบบสวยงาม หลังจากนั้น "สิงโตน้ำเงินคราม" ตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 35 จากจังหวะที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้บอลจากตรงกลางสนาม และไหลต่อไปทางขวาให้ รีซ เจมส์ เปิดบอลจากหน้ากรอบเขตโทษลอยโด่งข้ามแนวรับเจ้าบ้านไปเข้าทางของ มาร์กอส อลอนโซ่ วอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายแบบเน้นๆ เข้าไปตุงตาข่าย เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี มีโอกาสยิงประตูเพิ่มได้อีกหลายครั้งเลย แต่ว่าขาดความเฉียบคมกันเอง ส่วน เลสเตอร์ มีโอกาสได้ลุ้นจบสกอร์เพิ่มด้วยเช่นกัน แต่ว่าซัดพลาดในจังหวะสุดท้าย  


หมดเวลาการแข่งขันลงเอยด้วยเสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน ทำให้ เชลซี ได้การันตีอันดับ 3 เรียบร้อยแล้วแบบไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันในนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้อีกต่อไป หลังลงเตะไปแล้ว 37 นัด มี 71 คะแนน แม้จะนำหน้า "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ทีมอันดับ 4 เพียง 3 แต้ม แต่ว่ามีผลต่างประตูมากกว่าถึง 18 ลูกเลยทีเดียว สำหรับนัดสุดท้าย "สิงโตน้ำเงินคราม" จะได้กลับไปเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ วัตฟอร์ด ทีมตกชั้นไปแล้วในคืนวันที่ 22 พ.ค.นี้ ส่วน เลสเตอร์ ปักหลักตรงกลางตารางคะแนนในอันดับ 9 แบบไม่มีอะไรให้ลุ้นอีกแล้ว แข่ง 37 นัด มี 49 คะแนน และนัดสุดท้ายจะได้เปิดบ้านต้อนรับ เซาแธมป์ตัน ในคืนวันที่ 22 พ.ค.นี้ด้วยเช่นกัน