ลิเวอร์พูล,เอฟเอ คัพ,เชลซี

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2021/2022 ไปครองได้สำเร็จ หลังยิงจุดโทษในช่วงดวลเป้าตัดสินแม่นกว่า จึงเป็นฝ่ายย้ำแค้นจากการเฉือนชนะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในนัดชิงที่เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ได้แบบหวุดหวิด

เกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล มีการปรับทัพบางตำแหน่ง โดยแนวรุกใช้ 3 ประสาน หลุยส์ ดิอาซ, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์

ด้าน เชลซี ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ได้ มาเตโอ โควาซิช ฟิตกลับมายืนคุมแดนกลางร่วมกับ จอร์จินโญ่ และให้ โรเมลู ลูกากู ออกสตาร์ทเป็นตัวสำรองในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าด้วย

ในช่วงครึ่งแรก ทั้งสองทีมมีโอกาสผลัดกันลุ้นประตูแบบต่อเนื่อง แต่ ลิเวอร์พูล ต้องสูญเสีย โมฮาเม็ด ซาล่าห์ กองหน้าตัวเก่งได้รับบาดเจ็บในช่วงนาทีที่ 33 จึงต้องเปลี่ยน ดิโอโก้ โจต้า กองหน้าตัวสำรองให้ลงมาเล่นแทน จบ 45 นาทีแรกยังคงเสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง "หงส์แดง" มีโอกาสลุ้นยิงประตูได้มากกว่า และใกล้เคียงกับการได้ประตูมากที่สุดจากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ กองกลางตัวสำรองเปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาไปทางเสาไกลให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โฉบมาซัดบอลไปชนเสาแบบเต็มๆ จบ 90 นาที เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 จึงต้องเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีเพื่อตามหาผู้ชนะกันต่อไป แต่สุดท้ายไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบ 120 นาทียังคงเสมอ 0-0 จึงต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกจุดโทษตัดสิน

ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล สังหารแม่นกว่า เพราะยิงเข้าไปตุงตาข่ายถึง 6 คนจากทั้งหมด 7 คนที่รับหน้าที่สังหาร โดยนักเตะที่ยิงเข้า ได้แก่ เจมส์ มิลเนอร์, ติอาโก้ อัลคานทาร่า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ดิโอโก้ โจต้า และ คอสตาส ซิมิคาส ส่วน ซาดิโอ มาเน่ ยิงไม่เข้าเพียงคนเดียว ด้าน เชลซี ยิงเข้า 5 คนจากการทั้งหมด 7 คน โดยนักเตะที่ยิงเข้า ได้แก่ มาร์กอส อลอนโซ่, รีซ เจมส์, รอสส์ บาร์กลีย์, จอร์จินโญ่ และ ฮาคิม ซีเย็ค ส่วนนักเตะที่ยิงไม่เข้า 2 คน นั่นก็คือ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ เมสัน เมาท์

ทำให้ "หงส์แดง" เป็นฝ่านชนะช่วงดวลจุดโทษตัดสิน 6-5 พร้อมกับคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ไปครองเป็นสมัยที่ 8 ของสโมสรไปเลย และเป็นการย้ำแค้น เชลซี จากเกมนัดชิงคาราวบาว คัพ ซึ่งคว้าแชมป์ได้จากการเป็นฝ่ายชนะในช่วงดวลจุดโทษตัดสินด้วยเช่นกัน ส่วน "สิงโตน้ำเงินคราม" ต้องจบฤดูกาลนี้แบบมือเปล่า เพราะไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียว