เรอัล มาดริด,แอตเลติก มาดริด,ลาลีกา

"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ปล่อยจอยในช่วงหลังคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน ประจำฤดูกาลนี้ไปแล้ว หลังปราชัยในศึกแห่งศักดิ์ศรีของเมืองหลวงแดนกระทิงดุ เพราะพลาดท่าบุกไปแพ้ "ตราหมี" แอตเลติก มาดริด ที่เอสตาดิโอ วานต๋า เมโทรโปลิตาโน่ 0-1

เกมนี้ คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือ เรอัล มาดริด มีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคน และดร็อปพวกแข้งหลักให้ได้พักด้วย เพิ่อเปิดโอกาสให้นักเตะสำรองได้ลงสนามบ้าง ไม่ว่าจะเป็น อังเดร ลูนิน, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, มาร์โก อเซนซิโอ รวมถึง ลูกา โยวิช   

ด้านเจ้าบ้านของกุนซือ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ มีการปรับทัพหลายตำแหน่ง แต่ยังคงให้พวกตัวหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลายคนเลย นำทัพโดย แยน โอบลัค, มาร์กอส ยอเรนเต้, โกเก้ และ อังเคล คอร์เรอา

ในช่วงครึ่งแรก "ตราหมี" ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ มาเธอุส คุนญ่า ลากบอลไปโดน เฆซุส บาเยโฆ กองหลังทีมเยือนสกัดล้มลงไปในเขตโทษ แม้ว่าผู้ตัดสินจะไม่ได้เป่านกหวีดให้เป็นลูกจุดโทษในตอนแรก แต่ว่าผู้ตัดสินจากห้อง VAR ได้ส่งสัญญาณให้ทบทวนคำตัดสินอีกครั้ง จึงมีการวิ่งไปดูภาพช้าจากจอโทรทัศน์ข้างสนาม และได้ตัดสินใจให้เจ้าบ้านได้ลูกจุดโทษ หลังจากนั้น ยานนิค การ์ราสโก้ รับหน้าที่สังหารเข้าไปในนาที 40 จบครึ่งแรก "ตราหมี" ออกนำ 1-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง เรอัล มาดริด พยายามทำเกมรุกเพื่อลุ้นยิงประตูให้ได้ ส่วนเจ้าบ้านมีโอกาสสอยตาข่ายเพิ่มได้เหมือนกัน แต่สุดท้ายไม่มีสกอร์ขยับเพิ่มเติม    

หมดเวลาการแข่งขัน แอตเลติก มาดริด เป็นฝ่ายเก็บชัยในศึกมาดริดดาร็์บี้แมทช์จากการเปิดบ้านเฉือนชนะ เรอัล มาดริด 1-0 จึงยังคงรั้งอันดับ 4 แข่ง 35 นัด มี 64 คะแนน เหนือกว่า เรอัล เบติส ทีมอันดับ 5 อยู่ 6 แต้ม และตามหลัง เซบีญ่า ทีมอันดับ 3 เพียงแต้มเดียว ส่วน เรอัล มาดริด ยังคงนำโด่งเป็นอันดับ 1 ในฐานะแชมป์ไปแล้ว แข่ง 35 นัด มี 81 คะแนนเท่าเดิม โดยทิ้งห่าง บาร์เซโลน่า ทีมอันดับ 2 ไปแบบขาดลอยแล้ว 12 แต้ม และเหลือโปรแกรมการแข่งขันในช่วงฤดูกาลนี้อีกเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น ทั้งนี้ เรอัล มาดริด ยังคงมีลุ้นคว้าแชมป์ในช่วงฤดูกาลนี้ได้ถึง 2 รายการ เพราะได้ผ่านเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปรอดวลแข้งกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในคืนวันที่ 28 พ.ค.นี้กันต่อไป